ไฟฟ้า เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ปัจจุบันนั้นแทบจะขาดไม่ได้ เพราะอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็ใช้ไฟฟ้าแทบทั้งสิ้น ดังนั้นถ้าเราเข้าใจถึงระบบไฟฟ้าก็จะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์ เพราะว่ามันจะเกี่ยวข้องกันความปลอดภัยในการใช้งานไฟฟ้าได้เลยทีเดียว
การติดตั้งระบบไฟฟ้าให้ปลอดภัย
แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าการเดินสายไฟอย่างไรถึงจะปลอดภัย ติดตามได้จากบทความนี้ได้เลย
1. ใช้อุปกรณ์ตัดวงจรอัตโนมัติ
การติดตั้งอุปกรณ์ตัดวงจรอัตโนมัติ เป็นส่วนนึงที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานไฟฟ้า เพราะเมื่อมีกระแสไฟฟ้าที่รั่วไหลออกจากเครื่องใช้ไฟฟ้า กระแส ไฟฟ้าลัดวงจร หรือมีกระแสไฟฟ้าไหลลงดิน โดยผ่านตัวนำหรือร่างกาย หรือสื่ออื่นๆ จะทำให้อุปกรณ์นี้ตัดวงจรทันที ทำให้ผู้ใช้งานไม่ได้รับอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่วไหลนั่นเอง
2. ติดตั้งสายดิน
สายดินนั้น เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยระบายกระแสไฟฟ้าที่ไหลออกนอกวงจรลงสู่พื้นดิน สายดิน จะช่วยลดอันตรายที่จะเกิดขึ้นกับร่างกาย หรือภายในวงจร โดยที่สายดินจะติดตั้งไว้อยู่ที่เมนไฟ และมักจะทำงานคู่กับอุปกรณ์ตัดวงจรอัตโนมัติ
3. แยกวงจร ให้เป็นส่วนๆ
สำหรับการติดตั้งระบบไฟฟ้า ไม่ควรเดินทุกอย่างภายในอาคารให้อยู่ภายในสวิตช์เดียว ควรจะแยกวงจรให้เป็นส่วน ๆ ซึ่งจะช่วยความปลอดภัย และการแก้ไขและบำรุงรักษาก็จะทำให้ง่ายขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ยิ่งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการใช้ปริมาณไฟฟ้าสูงๆ อาทิเช่น เครื่องปรับอากาศ ควรมีการแยกสวิตช์โดยเฉพาะ
4. เลือกขนาดสายไฟให้เหมาะกับการใช้งาน
ในระหว่างที่วางระบบไฟฟ้า ควรคำนวนถึงปริมาณไฟฟ้าที่คาดว่าจะใช้งานภายในอาคาร โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม การเลือกใช้สายไฟขนาดธรรมดาก็จะไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ซึ่งถ้าเลือกใช้สายไฟที่มีขนาดเล็กเกินไป จะทำให้สายไฟมีความร้อนสูง และฉนวนกันไฟฟ้าจะเกินการละลาย และอาจจะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้
5. เดินสายไฟภายในท่อร้อยสายไฟ
การเดินสายไฟโดยเฉพาะการเดินในที่ลับตาเช่น ใต้ผนัง ใต้ฝ้า ควรจะมีการเดินภายใน ท่อร้อยสายไฟ ไม่ว่าจะเป็นท่อแข็งหรือแบบท่ออ่อน เพราะการใช้งานตามสภาพแวดล้อมอาจจะโดนสิ่งแปลกปลอม อาทิเช่น ฝุ่น น้ำ แมลง หรือสัตว์อื่นๆ ที่จะเข้าไปทำลายสายไฟ ซึ่งจะทำให้สายไฟชำรุดเสียหายได้
6. ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าอยู่ตลอด
ทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้า และเครื่องใช้ไฟฟ้า จะมีอายุการใช้งานในตัว ดังนั้นเมื่อมีการใช้งานในระยะเวลาหนึ่ง ควรมีการตรวจเช็คและเปลี่ยนใหม่ถ้าหากมีการชำรุด เช่น สายไฟโดยปกติแล้วจะมีอายุการใช้งานประมาณ 7 – 8 ปี เมื่อเห็นสายไฟเปลี่ยนสี หรือกรอบแตก ควรรีบเปลี่ยนทันที เพราะอาจจะเป็นต้นเหตุของอุบัติเหตุจากการใช้ไฟฟ้าได้ และไม่ควรทำการซ่อมหรือเปลี่ยนด้วยตัวเอง ควรจะให้ช่างผู้เชี่ยวชาญมาซ่อมจะดีที่สุด
7. เลือกช่างติดตั้งไฟฟ้าที่ไว้ใจได้
สุดท้ายการติดตั้งระบบไฟฟ้า ก็จะขึ้นอยู่กับช่างที่เลือกใช้ติดตั้งอีกด้วย เพราะมันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของผู้ใช้ไฟฟ้าภายในบ้านอีกด้วย
อุปกรณ์ตัดวงจรอัตโนมัติที่ได้กล่าวมมาข้างต้นนั้นก็คือ อุปกรณ์ต่างๆที่อยู่ในตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าหลัก หรือมีชื่อย่อว่า (MDB) แล้วอุปกรณ์ที่ว่านั้นมีอะไร มีหน้าที่อะไรบ้างสามารถเข้าไปอ่านได้ที่ เบรกเกอร์RCB RCD RCBO คืออะไร? ต่างกันอย่างไร?
สำหรับคนที่อยากได้อุปกรณ์ระบบไฟฟ้าคุณภาพดี Bticino เราจำหน่ายอุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้าที่ผลิตจากวัสดุอุปกรณ์ที่มีคุณภาพและโดดเด่นด้วยดีไซน์ เหนือกว่าด้วยคุณภาพสูงสุดตามมาตรฐานสากล (IEC) และมอก(TISI) สินค้าBticinoมีจำหน่ายมากกว่า 80 ประเทศทั่วโลก
เลือกอุปกรณ์ควบคุมไฟฟ้าคุณภาพ เลือกบิทิชีโน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
โทร 02-096-4965
Facebook : Bticino (TH) inbox
Line ID : @bticino_thailand